เทศกาลตรุษจีน "บันทึกรากจีน-เวียดนาม" ณ ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ศรีจันทร์ ขอนแก่น
เอกสารสรุป: เทศกาลตรุษจีน "บันทึกรากจีน-เวียดนาม" ณ ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ศรีจันทร์ ขอนแก่น
บทนำ:
เอกสารนี้สรุปประเด็นสำคัญจากงานเทศกาลตรุษจีน "บันทึกรากจีน-เวียดนาม" ที่จัดขึ้น ณ ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ศรีจันทร์ จังหวัดขอนแก่น งานนี้เป็นการร่วมมือกันของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) ขอนแก่น, เพจขอนแก่น Talk, และ ศรีจันทร์ Club โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน, สืบสานรากเหง้าของชาวจีนและเวียดนามในขอนแก่น, และส่งเสริมย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ศรีจันทร์
ประเด็นหลัก:
การเปิดงานและวัตถุประสงค์:
พิธีกรกล่าวต้อนรับผู้ร่วมงานและผู้ชมไลฟ์สด พร้อมเน้นย้ำถึงความยิ่งใหญ่ของงานเทศกาลตรุษจีนครั้งแรกในขอนแก่น
งานมี 3 กิจกรรมหลัก: นิทรรศการ, เสวนา, และโซนอาหาร (ชิมฟรี) โดยมีเมนูพิเศษ เช่น ปอเปี๊ยะทอดสูตรต้นตำรับเวียดนาม
การเสวนาแบ่งเป็น 2 ช่วง: (1) ความเป็นมาของรากจีน-เวียดนามในขอนแก่น และ (2) การพูดคุยเกี่ยวกับเมืองและการออกแบบกิจกรรม
ที่มาของโครงการ "บันทึกรากจีน-เวียดนาม":
คุณเจ ณัฐกร สมบัติธรรม (แอดมินเพจขอนแก่น Talk) อธิบายว่าโครงการนี้เกิดจากความร่วมมือกับ CEA โดยมีเป้าหมายเพื่อสืบค้นต้นตอของชาวจีนและเวียดนามที่อพยพเข้ามาในขอนแก่น โดยเน้นย่านศรีจันทร์
คำว่า "ราก" สื่อถึงรากฐานและการหยั่งลึกของวัฒนธรรมและธุรกิจในเมือง
โลโก้โครงการเป็นรูปดอกบัว สื่อถึงการเฉลิมฉลองและการรวมกันของ 3 ชาติพันธุ์ (ไทย, จีน, เวียดนาม) รวมถึงคุณธรรมในการทำธุรกิจ
การอพยพของชาวจีนโพ้นทะเล:
ชาวจีนอพยพมาไทยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยส่วนใหญ่มาทางเรือขึ้นที่ท่ากรุงเทพฯ และภาคตะวันออก
หลายคนไม่ได้หนีความยากจน แต่ต้องการหาโอกาสและดินแดนใหม่ๆ (เช่น คหบดีจากจีน)
การขยายตัวของทางรถไฟมาถึงโคราช ทำให้ชาวจีนกระจายตัวไปทั่วประเทศ รวมถึงขอนแก่น โดยเดินทางต่อด้วยเกวียนหรือเดินเท้า
ยุคจอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่กำหนดให้ขอนแก่นเป็นศูนย์กลางภาคอีสาน เป็นแรงจูงใจให้ชาวจีนและเวียดนามเข้ามาตั้งรกราก
ถนนศรีจันทร์: จุดศูนย์กลางการตั้งถิ่นฐานและธุรกิจ:
ถนนศรีจันทร์เป็นถนนสายแรกของขอนแก่น สร้างขึ้นในแนวตะวันออก-ตะวันตก ใกล้สถานีรถไฟและศาลหลักเมือง
เป็นเส้นทางที่ชาวจีนและเวียดนามเข้ามาตั้งถิ่นฐานและทำธุรกิจ โดยมีทั้งธนาคารและร้านค้าเก่าแก่มากมาย
เกิดการผสมผสานทางวัฒนธรรมของชาวจีน, ไทย, และเวียดนาม
ในช่วงแรกชาวจีนเข้ามาด้วยความยากลำบาก ("ปากกัดตีนถีบ") แต่ก็พยายามผลักดันตัวเองจนเป็นเจ้าของธุรกิจ โดยเริ่มจากร้านขายของชำ
ความหลากหลายและเอกลักษณ์ของศรีจันทร์:
ศรีจันทร์เป็นย่านที่มีความหลากหลายทั้งเชื้อชาติ, รูปแบบธุรกิจ, และผู้คน ที่มาอยู่รวมกันอย่างลงตัว
ธุรกิจในย่านมีการส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น (สเกลครอบครัว 7-10 คน)
ทุกคนรักเมืองและภาคภูมิใจในความเป็นตัวตนของธุรกิจตนเอง
17 ธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการแสดงถึงความหลากหลายและความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเมือง
บทบาทของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA):
CEA มีภารกิจในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ โดยเน้นการพัฒนาคน, ธุรกิจ, และย่านสร้างสรรค์
ย่านศรีจันทร์ได้รับการผลักดันให้เป็นย่านสร้างสรรค์ตั้งแต่ปี 2017-2018 โดยร่วมมือกับหอการค้าและเทศบาล
มีโครงการต่างๆ ที่ CEA ทำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในย่าน เช่น การใช้พื้นที่เศร้าโอกาส, การจัดกิจกรรม, และการสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น
CEA ทำหน้าที่เป็น "ตัวเชื่อม" (connect the dots) ระหว่างภาคส่วนต่างๆ และสร้างการมีส่วนร่วมในพื้นที่
ประสบการณ์ของร้านเคี้ยง:
คุณแบงค์ กมลวัฒน์ (ทายาทรุ่นที่ 3 ของร้านเคี้ยง) เล่าว่าบรรพบุรุษอพยพมาขอนแก่นด้วยเกวียน และเริ่มต้นธุรกิจด้วยร้านขายของชำชื่อ "อึ้งเหลือ กังเซ็ง"
ร้านเคี้ยงพาณิชย์ (ชื่อปัจจุบัน) ก่อตั้งเมื่อปี 2515 โดยคุณพ่อของคุณแบงค์
ความจริงใจต่อลูกค้าและคู่ค้าเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ ทำให้ร้านอยู่ยงคงกระพัน
ร้านเคี้ยงยึดมั่นในการขายของแท้ ซึ่งทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า แม้ว่าจะมีเหล้าปลอมระบาด
คุณแบงค์เห็นการเปลี่ยนแปลงของย่านศรีจันทร์จากความคึกคักไปสู่ความเงียบเหงา เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป, ที่จอดรถจำกัด, และการขาดทายาทธุรกิจ
การเข้าร่วมศรีจันทร์ Club ทำให้เห็นโอกาสในการฟื้นฟูย่านด้วยความคิดสร้างสรรค์
โอกาสและการพัฒนาในอนาคต:
การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนและการสนับสนุนจาก CEA ทำให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ ในย่านศรีจันทร์
คนรุ่นใหม่นำความคิดสร้างสรรค์และประสบการณ์จากที่อื่นมาพัฒนาธุรกิจในย่าน
ศรีจันทร์ได้กลายเป็น creative community ที่ดึงดูดผู้คนและนักท่องเที่ยว
CEA มีการเก็บข้อมูลย่านอย่างต่อเนื่องเพื่อวัดผลการเติบโต และสร้าง Ecosystem ที่เอื้อต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
งานตรุษจีน 3 แผ่นดินเป็นตัวอย่างของความร่วมมือและการสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ๆ ของงานเทศกาล
ข้อคิดสำคัญ:
ความร่วมมือและความจริงใจเป็นพื้นฐานของการสร้างชุมชนที่แข็งแรงและธุรกิจที่ยั่งยืน
ความคิดสร้างสรรค์และการปรับตัวเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูย่านเก่าแก่
การผสมผสานวัฒนธรรมและความหลากหลายเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดผู้คน
การส่งต่อความรู้และแนวคิดจากรุ่นสู่รุ่นเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาเมือง
สรุป:
เทศกาลตรุษจีน "บันทึกรากจีน-เวียดนาม" ณ ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ศรีจันทร์ เป็นงานที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์, วัฒนธรรม, และความหลากหลายของขอนแก่น งานนี้ไม่เพียงแต่เฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน แต่ยังเป็นการสืบสานรากเหง้า, ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์, และสร้างความภาคภูมิใจในท้องถิ่น โครงการนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของการรวมกลุ่ม ความคิดสร้างสรรค์ และความร่วมมือในการพัฒนาเมืองให้ยั่งยืน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น