โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อกรุงเทพฯ กับหนองคาย
สรุปรายละเอียดโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อกรุงเทพฯ กับหนองคาย โดยรวบรวมข้อมูลสำคัญจากแหล่งที่มาที่ให้มา:
1. ภาพรวมโครงการและสถานะปัจจุบัน
โครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หนองคาย (หรือที่เรียกว่า "รถไฟไทย-จีน สายเหนือและสายอีสาน") เป็นโครงการสำคัญที่มุ่งเน้นการขนส่งผู้โดยสารเป็นหลัก โดยมีแผนการเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟไทย-จีนที่ สปป.ลาวในอนาคต โครงการแบ่งออกเป็น 2 ระยะ:
ระยะที่ 1 (กรุงเทพฯ - นครราชสีมา): ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยสถานีหลักหลายแห่งมีการก่อสร้างคืบหน้า และบางส่วนยังต้องปรับปรุงเพิ่มเติม
ระยะที่ 2 (นครราชสีมา - หนองคาย): อยู่ระหว่างการออกแบบและคัดเลือกผู้รับจ้าง โดยมีแผนจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในภายหลัง
2. สถานีและโครงสร้างพื้นฐาน
2.1 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์:
สถานะ: ก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่ยังไม่ 100% มีบางส่วนที่ต้องปรับปรุงเพิ่มเติม
ชั้นใต้ดิน (ชั้น 1): พื้นที่จอดรถประมาณ 1,700 คัน
ชั้น 1 (พื้นดิน): พื้นที่จำหน่ายตั๋ว, พื้นที่การค้า/ร้านค้า, เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน (สายเฉลิมราชมงคล)
ชั้น 2: เปิดให้บริการแล้ว เป็นชั้นของรถไฟทางไกล (รฟท.) และชานชาลารองรับรถไฟชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-ตลิ่งชัน) มี 12 ชานชาลา (สีแดง-เหลือง)
ชั้นบน (ยังไม่เปิดใช้): รองรับรถไฟความเร็วสูง มี 12 ชานชาลา แบ่งเป็น:
สีม่วง: รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออก (เชื่อม 3 สนามบิน)
สีน้ำเงิน: รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน สายเหนือและสายอีสาน (6 ชานชาลา)
สีเขียว: รถไฟความเร็วสูงสายใต้ (สำรองไว้ในอนาคต)
2.2 สถานีดอนเมือง:
โครงสร้าง: อาคาร 4 ชั้น
ชั้นล่าง: ถนนและที่จอดรถ (เนื่องจากพื้นที่เขตทางจำกัด)
ชั้น 2: จำหน่ายตั๋วและโถงโดยสาร (แยกตั๋วสำหรับรถไฟความเร็วสูง, รถไฟชานเมืองสายสีแดง, รถไฟทางไกล)
ชั้น 3: รถไฟทางไกล (รฟท.) และรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
ชั้น 4: สายสีแดง และรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน
ข้อสังเกต: โครงสร้างใช้ร่วมกันระหว่างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ชั้นล่าง) และรถไฟไทย-จีน (ชั้นบนสุด) ทำให้จำเป็นต้องก่อสร้างไปพร้อมกัน
2.3 สถานีอื่นๆ ในระยะที่ 1 (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง):
ศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย: อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
สถานีอยุธยา (กม. 63+800):ชั้น 1: ทางเข้าอาคาร, ชานชาลารถไฟทางไกล, รถไฟสายสีแดง
ชั้น 2: จำหน่ายตั๋ว, พื้นที่พักคอย
ชั้นบน: ชานชาลาสำหรับรถไฟความเร็วสูง
หน่วยซ่อมบำรุงทางที่สระบุรี และสถานีสระบุรี:ชั้น 1: ทางเข้า, ชานชาลารถไฟทางไกล
ชั้น 2: จำหน่ายตั๋ว
ชั้น 3: จำหน่ายตั๋วรถไฟไทย-จีน
ชั้น 4: ชานชาลารถไฟไทย-จีน
สถานีปากช่อง:ชั้น 1: ที่จอดรถ
ชั้น 2: ทางเข้า, พื้นที่ร้านค้า
ชั้น 3: จำหน่ายตั๋ว
ชั้น 4: ชานชาลา
สถานีนครราชสีมา (สถานีปลายทางระยะที่ 1):โครงสร้าง: 3 ชั้น
ชั้น 1: ทางเข้า, จำหน่ายตั๋ว, พื้นที่พักคอย
ชั้น 2: รถไฟทางไกล
ชั้น 3: รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน
"เป็นสถานีค่อนข้างใหญ่เนื่องจากมีปริมาณผู้โดยสารเยอะ"
2.4 สถานีในระยะที่ 2 (อยู่ระหว่างการออกแบบ/คัดเลือกผู้รับจ้าง):
สถานีบัวใหญ่: ออกแบบเสร็จแล้ว ใช้ลวดลายดอกบัวผสมผสานอีสานที่ทันสมัย (3 ชั้น: ทางเข้า/จำหน่ายตั๋ว, พักคอย, ชานชาลา)
สถานีบ้านไผ่: ออกแบบโดยใช้ลวดลายเครื่องจักสานไม้ไผ่และผ้าทออีสาน (3 ชั้น: ทางเข้า/จำหน่ายตั๋ว/พักคอย, พักคอย, ชานชาลา)
สถานีขอนแก่น: ออกแบบโดยใช้ลวดลายผ้าทออีสานและเครื่องดนตรีแคน (3 ชั้น: ทางเข้า, พักคอย, ชานชาลา)
สถานีอุดรธานี: ออกแบบโดยใช้ดินเผาบ้านเชียงและผ้าทออีสาน (3 ชั้น: ทางเข้า, พักคอย, ชานชาลา) เชื่อมต่อกับรถไฟทางคู่ที่กำลังก่อสร้าง
สถานีหนองคาย (สถานีปลายทาง): ใช้ลวดลายพญานาคและคลื่นน้ำในการออกแบบ (3 ชั้น) "อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เริ่มก่อสร้างน่าจะเริ่มก่อสร้าง"
3. ระบบและเทคโนโลยี
3.1 ระบบราง:
มีทั้งแบบมีหินโรยทางและไม่มีหินโรยทาง (วางบนพื้นคอนกรีต)
ใช้หมอนคอนกรีต
ระยะห่างราง 1.435 เมตร (Standard Gauge)
มีอุปกรณ์ยึดราง (fastening fastener) สำคัญในการยึดรางกับหมอน
3.2 ขบวนรถ (Rolling Stock):
รุ่น: ฟู่ซิงฮ่าว (Fuxing Hao) CR300AF (เทคโนโลยีจีน)
ความยาว: 8 ตู้โดยสาร
ความจุ: 594 คน (First Class 96 คน, Standard Class 498 คน)
ความเร็วสูงสุด: 250 กม./ชม.
แบ่งเป็นตู้ที่มีมอเตอร์ขับเคลื่อนและตู้แบบ Trailer (ไม่มีระบบขับเคลื่อน)
น้ำหนักลงเพลา: 17 ตัน/เพลา
ชั้นโดยสาร: First Class (4 ที่นั่ง/แถว, กว้างกว่า), Standard/Ordinary Class (5 ที่นั่ง/แถว, แคบกว่า)
3.3 ระบบไฟฟ้า (Electrical System):
ระบบจ่ายไฟ: 25 KV AC (อยู่เหนือหัวขบวนรถ)
มีสถานี Traction Power Substation 13 แห่ง (12 แห่งเป็น Section Post)
ควบคุมด้วยระบบ SCADA
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จ่ายไฟตามโครงข่าย High Voltage Grid เข้าสู่ Substation เพื่อแปลงระดับไฟ
3.4 ระบบอาณัติสัญญาณ (Signaling System):
เทคโนโลยี: CTCS Level 2 (ระบบของจีน)
มีระบบ ATP (Automatic Train Protection) เป็นระบบสากล ป้องกันรถไฟชนกัน
มีอุปกรณ์รายทาง เช่น Track Circuit และไฟสี
ควบคุมผ่านศูนย์ควบคุมกลาง (Control Center) ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่นครราชสีมา
3.5 ระบบสื่อสาร (Communication System):
ประกอบด้วย: สายส่งข้อมูล, ระบบวิทยุ, ระบบเฝ้าระวัง, ระบบโทรศัพท์, ระบบ Master Clock (ปรับเวลาอุปกรณ์ให้ตรงกัน), ระบบสารสนเทศ, และระบบอื่นๆ
3.6 ระบบตั๋ว (Ticketing System):
รูปแบบตั๋วเบื้องต้น: Magnetic Media Paper (คล้ายบัตรโดยสารชินคันเซ็นของญี่ปุ่น)
ช่องทางจำหน่าย: ตู้จำหน่ายอัตโนมัติ (ticketing vending machine) และ Online Mobile Application
มี Gate สำหรับแตะตั๋ว
ข้อสังเกต: ระบบตั๋วนี้ไม่ได้รวมอยู่ในระบบตั๋วร่วมของรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ (แยกส่วนกัน)
3.7 ศูนย์ซ่อมบำรุง (Maintenance Centers):
ศูนย์ซ่อมบำรุงหลัก: เชียงรากน้อย (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) รองรับการซ่อมบำรุงหนัก
ในเฟสที่ 2 จะมีการเสริมขีดความสามารถ เช่น เพิ่มที่จอดรถไฟ, เพิ่มโรงซ่อมบำรุงเบา/หนัก, สร้างรางทดสอบ (Test Track) ยาว 2.5 กม.
ศูนย์ซ่อมบำรุงย่อย/เบา: นาทาน (มีขนาดเล็กกว่าเชียงรากน้อย) รองรับการตั้งขบวนและซ่อมบำรุงเบา
มี Traction Power Substation ที่หนองเม็ก และโนนสะอาด (กม. 514)
4. แผนการเดินรถและบริการ
รูปแบบสถานีทั่วไป: ทางวิ่งรถไฟความเร็วสูงอยู่ตรงกลาง ส่วนชานชาลาอยู่ด้านข้าง (รถจะเบี่ยงออกไปจอด)
รูปแบบการให้บริการ:จอดทุกสถานี: จอดทุกป้าย
จอดเฉพาะสถานีหลัก: จอดเฉพาะสถานีที่มีผู้โดยสารมาก สถานีที่มีผู้โดยสารน้อยจะวิ่งผ่าน (ทำให้เดินทางเร็วขึ้น แต่รถจะลดความเร็วลงเล็กน้อย)
จอดสถานีปลายทาง: เช่น กรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย หรือ กรุงเทพฯ-หนองคายเลย
"ขึ้นอยู่กับความต้องการในการเดินทางที่จะเกิดขึ้น" และ "ทางเอกชนที่เขามาดำเนินการอาจจะมีไอเดียหรือมีวิธีการในการจัดการให้บริการที่แตกต่างออกไป"
5. การเชื่อมโยงโครงข่ายและอนาคต
การเชื่อมต่อกับ สปป.ลาว: การรถไฟอยู่ระหว่างการออกแบบสะพานข้ามแม่น้ำโขง เพื่อเชื่อมโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หนองคาย กับโครงการรถไฟไทย-จีนใน สปป.ลาว
การขนส่งสินค้า: มีแผนพัฒนาพื้นที่บริเวณ "Thshipment Yard" (อยู่บริเวณที่ต้องเวนคืนเยอะ) สำหรับกิจกรรมการขนถ่ายสินค้าระหว่าง Standard Gauge (จากจีน/ลาว) และ Meter Gauge (รถไฟในไทย) เพื่อขนส่งต่อไปยังท่าเรือแหลมฉบัง กรุงเทพฯ หรือภาคใต้ (เชื่อมโครงข่ายการรถไฟ) "ฟังก์ชันของการขนส่งสินค้าซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ แต่ขออนุญาตเล่าให้ฟัง"
โครงข่ายรถไฟความเร็วสูงในอนาคตมีแผนจะเชื่อมต่อทั่วประเทศ (โดยสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ได้สำรองชานชาลาสำหรับสายใต้ไว้แล้ว)
6. การคัดเลือกเอกชนและการดำเนินงานแบบ PPP
กระบวนการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) แบ่งเป็น 3 ระยะ:
การนำเสนอโครงการ: (ปัจจุบันอยู่ในขั้นนี้)
จัดทำรายงานศึกษาและวิเคราะห์โครงการตาม พ.ร.บ. ร่วมลงทุน
กำหนดหลักการของโครงการ
นำเสนอการรถไฟฯ -> รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม -> สคร. (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ) -> คณะทำงานตามมาตรา 29 (ประกอบด้วย สภา, สำนักงบประมาณ, สำนักบริหารหนี้สาธารณะ) -> คณะกรรมการนโยบาย (บอร์ด PPP) -> รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม -> คณะรัฐมนตรี (อนุมัติ)
การคัดเลือกเอกชน: (ขั้นตอนถัดไปเมื่อ ครม. อนุมัติ)
การรถไฟฯ จัดทำร่างเอกสาร RFP (Request for Proposal) และร่างสัญญา
แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือก เพื่อพิจารณา, เจรจา, นำเสนอผลการคัดเลือกต่อรัฐมนตรี และ ครม. เพื่ออนุมัติให้ลงนามสัญญา
การดำเนินโครงการ:การรถไฟฯ ตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการดำเนินงานของเอกชนให้เป็นไปตามข้อกำหนด (เช่น บริการ, ความเร็ว, ค่าโดยสาร)
7. การประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของประชาชน
เส้นทางผ่าน 8 จังหวัด: กรุงเทพฯ, ปทุมธานี (ไม่มีสถานี), พระนครศรีอยุธยา, สระบุรี, นครราชสีมา, ขอนแก่น, อุดรธานี, หนองคาย
สถานะปัจจุบัน:ชี้แจงข้อมูลกับผู้ว่าราชการจังหวัดครบ 8 จังหวัดแล้ว (พ.ค.-มิ.ย.)
จัดปฐมนิเทศที่ขอนแก่นและกรุงเทพฯ แล้ว (15, 17 ก.ค.)
แผนต่อไป:นำเสนอผลการศึกษาเพื่อรับฟังความคิดเห็นอีกครั้งในเดือนกันยายน
จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนที่สนใจร่วมลงทุน
เปิดให้ภาคเอกชนที่สนใจยื่นข้อเสนอลงทะเบียนและจัดสัมภาษณ์กลุ่มย่อยแบบ One-on-One ในเดือนตุลาคม เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นและความเสี่ยงที่เอกชนรับได้/ไม่ได้
ช่องทางประชาสัมพันธ์:เว็บไซต์โครงการ: www.pvp-ssr.com
Facebook Page: PVP รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-หนองคาย (ใช้เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น