ผศ.ดร. ณัฐพงษ์ พันธ์น้อย ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนภาคและเมืองและการยกระดับการจัด Festival




การบรรยายของ ผศ.ดร. ณัฐพงษ์ พันธ์น้อย ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนภาคและเมืองและการยกระดับการจัด Festival ซึ่งเน้นการเปลี่ยนผู้มาเยือนให้เป็นผู้สนับสนุนและผู้อยู่อาศัย โดยมีกลุ่มกรณีศึกษาหลักคือชาวญี่ปุ่น


ธีมหลักและแนวคิดสำคัญ:

นิยามและเป้าหมายของ "Long Sayer":

Long Stay หมายถึงชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทยเกิน 10 วันขึ้นไป (ซึ่งยาวนานกว่านักท่องเที่ยวคุณภาพสูงทั่วไปที่มีระยะพำนักเฉลี่ย 9.58 วัน) โดยไม่เปลี่ยนสัญชาติถาวร มีวัตถุประสงค์เพื่อทำงานชั่วคราว ดูแลสุขภาพ หรือทำกิจกรรมนันทนาการ

เป้าหมายคือการเปลี่ยนแนวคิดจาก "Visitor Economy" ที่เน้นจำนวนนักท่องเที่ยวและรายจ่ายต่อครั้ง ไปสู่การสร้าง "Supporter" (ผู้สนับสนุน) และ "Resident" (ผู้อยู่อาศัย) กลุ่มใหม่

"Supporter" คือผู้ที่รักและผูกพันกับไทย มาซ้ำบ่อยๆ เดินทางไปพื้นที่ต่างๆ เรียนรู้วัฒนธรรม และเผยแพร่เรื่องราวดีๆ ของไทยสู่สากล เช่น มาฝึกมวยไทยแล้วกลับไปเปิดยิมที่บ้าน หรือมาเรียนทำอาหารไทยแล้วกลับไปเผยแพร่อาหารไทยในประเทศตัวเอง

"Resident" คือผู้ที่มาพำนักระยะยาว (อาจจะไม่ใช่ถาวร) เช่น มาอยู่ 1-3 เดือนต่อปี เพื่อบริโภคสินค้า/บริการ หรือร่วมกิจกรรมทางสังคม

แนวคิดนี้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรโลก (สังคมสูงวัย, Digital Nomads, Creative Class) ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิตและการทำงาน

ทำไมต้องสนใจ Long Sayer โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น?

การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว: จากการท่องเที่ยวเชิงปริมาณสู่การท่องเที่ยวคุณภาพสูงที่สร้างมูลค่าสูงขึ้น (ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม) และกระจายรายได้สู่เมืองรอง

ศักยภาพด้านเศรษฐกิจ: ชาวญี่ปุ่นเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงที่พร้อมจ่ายเพื่อประสบการณ์และคุณภาพที่ดี




พันธมิตรที่ดี: เป็นพันธมิตรที่ดีกับไทยมาตลอด

แนวโน้มการย้ายออก: อัตราการย้ายออกไปพำนักระยะยาวของชาวญี่ปุ่นมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยไทยเป็นอันดับ 4 ของโลกที่ชาวญี่ปุ่นเลือกมาพำนักระยะยาวแบบชั่วคราว และกรุงเทพฯ เป็นอันดับ 2 ของโลก

กำลังซื้อสูง: รายได้เฉลี่ยของชาวญี่ปุ่นสูงกว่าคนไทยมาก หากมาพำนักระยะยาวจะช่วยเพิ่มการบริโภคในท้องถิ่นได้

สาเหตุการย้ายออกของชาวญี่ปุ่น:

ขาดความยืดหยุ่นในการอยู่รอดในเศรษฐกิจโลก (คนหนุ่มสาวต้องการหาประสบการณ์ต่างประเทศ)

สภาพแวดล้อมการทำงานในญี่ปุ่นค่อนข้างกดดัน/เครียด

แนวคิด FIRE (Financial Independence, Retire Early) คือทำงานหนักช่วงต้น เพื่อมีอิสระใช้ชีวิตกับครอบครัวก่อนกลับญี่ปุ่น

ประเภทของ Long Sayer ในประเทศไทยตามกฎหมายไทย:

Long Stay Visitor: นักท่องเที่ยวที่อยู่ได้ไม่เกิน 90 วันต่อครั้ง (ใช้ Tourist Visa)

Resident Visitor: มาทำงาน รับเงินเดือน มีครอบครัว

Long Stay Resident: มาพักผ่อนระยะยาว เช่น ผู้สูงอายุ, Digital Nomads (มีวีซ่า 6 เดือน - 10 ปี)

ผลการวิจัยจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในประเทศไทย:

ความคาดหวังเชิงบวก: ต้องการให้ Long Sayer ช่วยขับเคลื่อนสังคมพหุวัฒนธรรม สนับสนุนนวัตกรรมสังคม เป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงที่สนับสนุนสินค้า/บริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน

ความกังวลเชิงลบ: ผลกระทบต่อการให้บริการสาธารณะ โดยเฉพาะสาธารณสุข (อ้างอิงจากกลุ่มผู้สูงอายุญี่ปุ่นที่มักกลับประเทศเมื่อเจ็บป่วย เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลในไทยไม่ได้ถูกกว่า และมีระบบประกันที่บ้านดีกว่า)

คุณลักษณะ Long Sayer ที่พึงประสงค์:

กำลังซื้อสูง

ดูแลตัวเองได้

สนใจกิจกรรมวัฒนธรรมไทย

เป็นผู้มีอิทธิพลในการจูงใจ (Influencer)

กลุ่มเป้าหมายใหม่ที่น่าสนใจ: นอกจากผู้สูงอายุแล้ว ยังมี Expat, Digital Nomads, Business Owners และนักเรียน (โดยเฉพาะระดับมัธยมปลาย-มหาวิทยาลัย ที่ต้องการเรียนหลักสูตรนานาชาติที่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าในญี่ปุ่น)




ผลการสำรวจชาวญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มมา Long Stay ในไทย:

ข้อมูลประชากร:

ยิ่งรายได้สูง ยิ่งอยากออกมาอยู่ต่างประเทศ (พบในกลุ่มรายได้เกิน 10 ล้านเยน/ปี)

ผู้หญิงสนใจ Long Stay มากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า

กลุ่มรายได้เกิน 10 ล้านเยน/ปี มีค่าใช้จ่ายทุกด้านเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า

ระยะเวลาที่ต้องการพำนัก: หลักๆ คือประมาณ 3 เดือน รองลงมาคือ 1 เดือน

ปัจจัยในการเลือกประเทศ:

ความโดดเด่นทางวัฒนธรรมที่เป็นที่ยอมรับในสากล

ความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมือง (ไทยมีจุดแข็งด้านอาหาร, วัฒนธรรม, ประวัติศาสตร์ แต่การเมือง/เศรษฐกิจยังเป็นประเด็นที่ต้องตัดสินใจ)

ปัจจัยในการตัดสินใจขั้นสุดท้าย:

ความปลอดภัย (สิ่งสำคัญที่สุด)

อาหาร

สุขอนามัย

บริการที่มีคุณภาพ และคุ้มค่า (ไม่จำเป็นต้องถูก แต่ต้องคุ้มค่ากับสิ่งที่จ่าย)

ประสบการณ์และเอกลักษณ์ของประเทศปลายทางที่หาไม่ได้ในญี่ปุ่น

การได้สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นแบบคนท้องถิ่น

บริการพิเศษ: คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ต้องการบริการที่ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นหลัก ยกเว้นบริการรักษาพยาบาล/ฟื้นฟูสุขภาพ

กิจกรรมที่สนใจในอาเซียน: พักผ่อน, ท่องเที่ยววัฒนธรรม/ธรรมชาติ, ร่วมกิจกรรมแก้ไขปัญหาสังคม/สิ่งแวดล้อม (น่าสนใจ), ดูแลสุขภาพ/เวลเนส

สิ่งที่ Long Sayer ชาวญี่ปุ่นไม่ประทับใจในไทย:

ความไม่สะอาด/ไม่สวยงามของบ้านเมือง

สาธารณูปโภคที่ไม่ได้คุณภาพ

บริการจากภาครัฐ

โครงสร้างพื้นฐาน

สิ่งแวดล้อม

พฤติกรรมการท่องเที่ยวของ Long Sayer ชาวญี่ปุ่นในไทย:

ส่วนใหญ่มาไทยเพื่อทำงาน และ 90% ประทับใจ

กลายเป็นนักท่องเที่ยวในประเทศ (Domestic Tourist) ใช้จ่ายค่อนข้างมาก (เกิน 5,000 บาท/คน/วัน)

เที่ยวในไทย 3-6 เดือน/ครั้ง (ปีละ 2-4 ครั้ง) ระยะเวลา 1-3 วัน

นิยมไปเมืองหลัก เช่น เชียงใหม่, เชียงราย, ภูเก็ต, กระบี่ (ข้อมูลเก่าๆ ที่เคยมีคนญี่ปุ่นไปแล้ว)

วัตถุประสงค์หลักคือพักผ่อน, ผ่อนคลาย, สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ, เรียนรู้/ชมสถานที่สำคัญ

เดินทางกับเพื่อน

ไม่ต้องการบริการ/ข้อมูลเป็นภาษาญี่ปุ่น (ภาษาอังกฤษก็พอ)

สนใจบรรยากาศธรรมชาติ, ประวัติศาสตร์/วัฒนธรรม, วิถีชุมชน

กิจกรรม Luxury, Wellness, ผจญภัย ก็สนใจถ้ามีโอกาส

จุดดึงดูดสำคัญคือ เอกลักษณ์เฉพาะที่ทำได้ในไทยเท่านั้น และ ประสบการณ์แปลกใหม่ (สามารถสร้าง Content ใน Social Media ได้)

คุณภาพสินค้าและบริการสำคัญกว่าภาษา

ปัญหาด้านข้อมูลและการสื่อสาร:

คนญี่ปุ่นจำนวนมากไม่รู้จักประเทศไทยดีพอ สื่อญี่ปุ่นนำเสนอภาพเก่าๆ เช่น ขี่ช้าง, บ้านริมคลอง

กรุงเทพฯ หรือเชียงใหม่ในสายตาของ Long Sayer ไม่ต่างจากโตเกียวหรือเมืองที่สะดวกสบายอื่นๆ (ขาดเอกลักษณ์เฉพาะ)

ขาดแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ (ทั้งภาษาอังกฤษ) หรือข้อมูลที่ไม่ตรงปก

นิยมหาข้อมูลจาก Social Media ของคนรู้จักที่เชื่อถือได้

ครอบครัว เป็นกลุ่มสำคัญที่เดินทางท่องเที่ยวในเมืองรองและเป็น Influencer ที่ดี

ข้อเสนอแนะและข้อสรุป:

เปลี่ยนวิธีคิด: จากการดึงดูดนักท่องเที่ยวแบบเดิมๆ ไปสู่การสร้าง Supporter และ Resident

เป้าหมาย: ทำให้คนที่มาไทยประทับใจ เดินทางท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น บริโภคสินค้า/บริการในเมืองรองมากขึ้น และเป็น Soft Power ในการสื่อสารคุณค่าวัฒนธรรมไทย

การพัฒนาเมืองรอง/อีสาน: ต้องสื่อสาร City Brand ให้คนกลุ่มนี้รับรู้ว่าขอนแก่น สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบล บุรีรัมย์ มีอะไรน่าสนใจ




ปัจจัยสำคัญในการดึงดูด Long Sayer:

การลงทุนและบทบาทในสังคม: ให้โอกาส Long Sayer มีส่วนร่วมในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคม

ระบบประกันสุขภาพ: ที่ไม่แพงเกินไป หรือสามารถใช้ประกันของญี่ปุ่นได้

Visa ที่เอื้ออำนวย: สำหรับ Vacation, นักเรียน, และ Digital Nomads

โครงสร้างพื้นฐานพื้นฐานที่ดี: ระบบคมนาคม, ความปลอดภัย, คุณภาพการให้บริการ, ความคุ้มค่า, กฎระเบียบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ

คำถามทิ้งท้าย: "เราพร้อมหรือยังเมืองที่น่าอยู่ เตรียมเมืองที่คนจะมาเป็น Long Sayer เพื่อสร้างคุณภาพชีวิต โอกาสใหม่ๆ ทางเศรษฐกิจและประสบการณ์ใหม่ๆ แล้วหรือยัง?" การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในเมืองก็คือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับ Long Sayer ด้วยเช่นกัน


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การประชุมสรุปผลการสัมมนาโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-หนองคาย

เทศกาลอาหารอีสานขอนแก่น 2568

KhonKaen NEXT ดีเบต 5 ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น