การประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนโครงการ พสวท. สู่ความเป็นเลิศ ระดับชาติ ครั้งที่ 5 ประจำปีการศึกษา 2566

 



การประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนโครงการ พสวท. สู่ความเป็นเลิศ ระดับชาติ ครั้งที่ 5 ประจำปีการศึกษา 2566

วันและเวลา: 27-29 สิงหาคม 2566 สถานที่: จังหวัดขอนแก่น (โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัยเป็นเจ้าภาพ) ผู้เข้าร่วม: นักเรียน 276 คน, ผู้บริหารและครู 78 คน จาก 10 ศูนย์โรงเรียน พสวท. ทั่วประเทศ รวม 454 คน นอกจากนี้ยังมีการเข้าร่วมผ่านระบบออนไลน์ 452 คน ประธานในพิธี: นายประจวบ รักแพทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ผู้กล่าวต้อนรับ: ดร. ทวีศิลป์ สารแสน ประธานกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย ผู้กล่าวรายงาน: ดร. คมสัน ชุมอภัย ผู้อำนวยการโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย และประธานโครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศูนย์โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย


1. ธีมหลักและวัตถุประสงค์ของการประชุม

การประชุมวิชาการครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 โดยมีโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จังหวัดขอนแก่น เป็นเจ้าภาพหลัก วัตถุประสงค์สำคัญคือ "เพื่อยก ระดับ มาตรฐาน การ พัฒนา นักเรียน ที่ มี ความ สามารถ พิเศษ ของ ประเทศ ให้ ขยาย ฐาน มาก ขึ้น สลับ เป็น ต้นแบบ การ วิจัย และ การ พัฒนา องค์ ความ รู้ ให้ นักเรียน ที่ มี ความ สามารถ พิเศษ และ ยก ระดับ มาตรฐาน ศูนย์ โรงเรียน คสวท ทั้ง 10 โรงเรียน ให้ เป็น แม่ ข่าย การ พัฒนา และ ส่ง เสริม นักเรียน ที่ มี ความ สามารถ พิเศษ ใน ภูมิภาค และ เพื่อ ให้ นักเรียน โครงการ ห้อง เรียน พสท ต่อ สู่ ความ เป็น เลิศ ได้ มี โอกาส นำ เสนอ ผล งาน ให้ ปรากฏ แก่ สาธารณชน" นอกจากนี้ยังเน้นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างนักเรียน ครู และบุคลากรจากทั่วประเทศ


2. กิจกรรมสำคัญตลอดการประชุม

การประชุมนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 สิงหาคม 2566 โดยมีกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อส่งเสริมทักษะทางวิชาการและประสบการณ์ชีวิต:


พิธีเปิดอย่างเป็นทางการ: โดยท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมการแสดงต้อนรับทางวัฒนธรรมอีสาน (ชุด "เที่ยวเมืองขอน")

การเสวนาทางวิชาการ: โดยรุ่นพี่ศิษย์เก่าทุน พสวท. อาทิ ศาสตราจารย์ ดร. สุปรี พินิจสุนทร (มหาวิทยาลัยขอนแก่น) และ รองศาสตราจารย์ ดร. ทีปนิส ชาชโย (มหาวิทยาลัยนเรศวร) เพื่อจุดประกายแรงบันดาลใจและแลกเปลี่ยนแนวคิดในเชิงวิชาการ

การนำเสนอและแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์:รูปแบบโปสเตอร์: โดยคณะกรรมการตัดสิน

รูปแบบบรรยายปากเปล่า (Oral Presentation): ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (รวม 122 โครงงาน)

กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์และกิจกรรมฐาน: ณ โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย เพื่อสร้างความสามัคคีและประสบการณ์แปลกใหม่

การนำเสนอข้อมูลการศึกษาต่อทุน พสวท.: ทั้งในและต่างประเทศ โดยสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) สำหรับนักเรียนชั้น ม.6

กิจกรรมทัศนศึกษาเมืองขอนแก่น: ชมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมือง เช่น บึงแก่นนคร วัดหนองแวง และเดินทางด้วยรถสองแถวซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของเมือง

พิธีปิด: พร้อมกิจกรรมภาคค่ำที่ถูกอุบไว้เป็นเซอร์ไพรส์

3. ขอนแก่น: มหานครแห่งอารยธรรมและศูนย์กลางการศึกษา

ผู้จัดงานได้นำเสนอจังหวัดขอนแก่นในฐานะที่เป็นศูนย์กลางที่มีความโดดเด่นหลากหลายมิติ:



เมืองแห่งสีสันและแหล่งท่องเที่ยว: "เป็นเมืองแห่งสีสันอีกเมืองนึงของประเทศไทย ถือว่าจังหวัดขอนแก่นเป็นจังหวัดที่มีคนสนใจและเข้ามาเยี่ยมชม เข้ามาท่องเที่ยวอยู่ตลอด" มีแหล่งช้อปปิ้ง เช่น เซ็นทรัลพลาซ่า เซนโทซ่า แฟรี่พลาซ่า และโรงแรมลิปส์ที่มี Skywalk ชมเมือง 360 องศา นอกจากนี้ยังมีตลาดคนเดินในคืนวันเสาร์ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม เช่น เขื่อนอุบลรัตน์ บึงแก่นนคร พระธาตุ 9 ชั้น (วัดหนองแวง) ศาลหลักเมือง และ พระธาตุขามแก่น (ปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญและเก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมืองขอนแก่น)

เมืองแห่งเทศกาล: มีเทศกาลที่ขึ้นชื่อ เช่น "งานประเพณีสงกรานต์อีสานดอกคูณเสียงแคนและถนนข้าวเหนียว" (มี "คลื่นมนุษย์" ที่ยิ่งใหญ่) และ "งานเทศกาลไหมนานาชาติและงานขอนแก่นเคาท์ดาวน์" ซึ่งจัดขึ้นทุกปี

วัฒนธรรมอีสานที่โดดเด่น:ประเพณีผูกเสี่ยว: สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น "เสี่ยว" หมายถึง "เพื่อนรัก คือมากกว่าเพื่อน แต่เป็นคน ที่แบบตายแทนกันได้ ทำทุกอย่างเพื่อกันและกันได้ อยู่ด้วยกันแบบไว้ใจกัน"

ผ้าไหมขอนแก่น: "เป็นเมืองแห่งผ้าไหม" มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะ "ลายแคนแก่นคูน" ซึ่งผ้าไหมบางผืนมีมูลค่าสูงถึงหลักแสนบาท

อาหารอีสาน: ขึ้นชื่อเรื่องความ "แซ่บ นัว" โดยเฉพาะ "ไก่ย่างเขาสวนกวาง" และ "ส้มตำ" รวมถึงอาหารพื้นบ้านอย่างลาบ ก้อย ซอยจุ๊ และร้านอาหารหลายแห่งได้รับรางวัลมิชลิน สไตล์

หมอลำ: "เป็นแหล่งมรดกภูมิปัญญาหมอลำโดยขนานแท้" มีการพัฒนาจากหมอลำดั้งเดิมสู่หมอลำประยุกต์และวงหมอลำสมัยใหม่ ถือเป็น Soft Power ที่สำคัญ

ศูนย์กลางการศึกษา: เป็นที่ตั้งของ "มหาวิทยาลัยขอนแก่น" ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำที่หลายคนใฝ่ฝัน และมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง เช่น พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติขอนแก่น และพิพิธภัณฑ์ธนาลักษณ์

4. โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย: เจ้าภาพและศูนย์กลางแห่งปัญญา

โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย ซึ่งเป็นเจ้าภาพ จัดเป็นโรงเรียนมาตรฐานสากล ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2510 มีวิสัยทัศน์ "สถานศึกษาแห่งความ เป็นเลิศ ด้าน การ ศึกษา ที่ หลากหลาย ใน ระดับ สากล" มีอัตลักษณ์ "รักสิ่งแวดล้อม พร้อมนำตนเองอย่างสร้างสรรค์"


ประวัติและเอกลักษณ์: มีจำนวนนักเรียน 4,306 คน ครูและบุคลากร 297 คน มี motto คือ "จรรยาดี มีวิชา กีฬาเด่น และเป็นงาน" คำว่า "เป็นงาน" สะท้อนถึงรากฐานของโรงเรียนในอดีตที่เป็นโรงเรียนมัธยมแบบผสม (คมส.) ซึ่งมีการเรียนการสอนสายอาชีพ เช่น ช่างกลโรงงาน ช่างก่อสร้าง ช่างเชื่อม ช่างอิเล็กทรอนิกส์

ศูนย์ประสานงานและบริการทางวิชาการ: เป็นโรงเรียนแม่ข่ายห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม (SMTE) ระดับ ม.ปลาย กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน, ศูนย์ STEM Education ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2, และเป็นศูนย์ของโครงการ พสวท.

การพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษ: โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย "มุ่งมั่น ที่ จะ หล่อ หลอม นักเรียน ให้ เป็น นัก วิจัย ผู้ ทรง คุณ ค่า ผ่าน หลัก สูตร อัน เข้มข้น" ซึ่งผสานหลักสูตรแกนกลางฯ กับวิชาโปรแกรมเสริมด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และคอมพิวเตอร์อย่างลึกซึ้ง มีกิจกรรมเสริมหลักสูตร เช่น การฝึกทักษะการทำวิจัยกับอาจารย์จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น, การพัฒนาทักษะปฏิบัติการขั้นสูง, การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ, การสร้างสรรค์โครงงานวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และคอมพิวเตอร์ และกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจต่างๆ

5. โครงการ พสวท. สู่ความเป็นเลิศ (ก่อตั้งปี พ.ศ. 2561)

โครงการ พสวท. สู่ความเป็นเลิศ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2561 โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เพื่อสร้าง "ศูนย์กลาง แห่ง ปัญญา ทั้ง 10 แห่ง ทั่ว ผืน แผ่นดิน ไทย ใน การ บ่ง เพาะ เมล็ด พันธุ์ แห่ง อนาคต นั่น คือ เยาวชน ผู้ มี พร สวรรค์ ด้าน วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี ให้ เติบ โต เป็น อนาคต ของ ชาติ"



เครือข่าย 10 ศูนย์โรงเรียนทั่วประเทศ:ภาคกลาง: โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี), โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย (กรุงเทพฯ), โรงเรียนศรีบุญญานนท์ (นนทบุรี), โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย (นครปฐม)

ภาคเหนือ: โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย (เชียงใหม่), โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม (พิษณุโลก)

ภาคใต้: โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย (สงขลา), โรงเรียนเบญจมราชูทิศ (นครศรีธรรมราช)

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: โรงเรียนสุรนารีวิทยา (นครราชสีมา), โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย (ขอนแก่น)

บทบาทของ สสวท.: ทำหน้าที่เป็น "แกนกลาง ใน การ ขับ เคลื่อน นโยบาย และ กำกับ ดู แล หลัก สูตร" และร่วมมือกับเครือข่ายศูนย์โรงเรียนทั้ง 10 แห่ง เพื่อยกระดับมาตรฐานและเป็นแม่ข่ายในการพัฒนาผู้มีความสามารถพิเศษ

6. สารสำคัญจากประธานในพิธี: พลังแห่งจินตนาการและสมาธิ

นายประจวบ รักแพทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษที่เน้นย้ำถึงแนวคิดสำคัญในการพัฒนาเยาวชนและประเทศไทย:


ขอนแก่นเป็นศูนย์กลางทางวิทยาศาสตร์และการศึกษา: มีการตั้งสภาการศึกษาเพื่อเป็นแกนหลักในการพัฒนาการศึกษา

พลังของสมาธิ: ยกตัวอย่างเด็กประถมที่ได้รับรางวัลด้านคณิตคิดเร็วที่ญี่ปุ่น โดยชี้ให้เห็นว่า "ถ้าเด็กเหล่านั้น มีเรื่อง รบกวน จิต ใจ ไม่ สามารถ ผลิต output ออก มา ได้...นี่ คือ พลัง ของ สมาธิ ที่ องค์ สมเด็จ พระ สัมมา สัมพุทธ เจ้า ได้ บอก เอา ไว้ เนี่ย เรื่อง ของ สมาธิ"

จินตนาการสำคัญกว่าความรู้: อ้างอิงคำกล่าวของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ "จินตนาการ สำคัญ กว่า ความ รู้" โดยเน้นว่าความรู้ (Knowledge) สามารถหาได้จากแหล่งข้อมูลมากมาย แต่ AI ไม่สามารถ "Imagine" ได้ จินตนาการคือ "พลังของจินตนาการ" ที่ช่วยให้นักกีฬามืออาชีพ วิศวกร สถาปนิก หรือแม้แต่เด็กที่ได้รับการปลูกฝังจากผู้ปกครอง มองเห็นความสำเร็จอยู่เบื้องหน้า

วิทยาศาสตร์และธรรมชาติ: ชี้ให้เห็นว่าวิทยาศาสตร์ทุกแขนงล้วน "ไป ค้น หา ธรรมชาติ" อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ตามหาเรื่องแสงมาทั้งชีวิต และยังมีความท้าทายในการทำความเข้าใจทฤษฎีควอนตัมและมิติที่สูงกว่า 3 มิติ "แต่ ทั้งหมด นั้น อธิบาย เรื่อง ธรรมชาติ อย่าง เดียว"

การฝึกฝนนำสู่ความสำเร็จ: "ทุก อย่าง เกิด จาก การ ฝึก ฝน ฝึก ซ้อม ฮะ ฝึก ซ้อม" ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์หรือความรู้ ทุกอย่างล้วนต้องการการฝึกซ้อมเพื่อสร้างความเชี่ยวชาญ และความเชี่ยวชาญนี้จะนำไปสู่ความสำเร็จเมื่อโอกาสมาถึง

7. บรรยากาศและการต้อนรับ

ตลอดการประชุมมีการเน้นย้ำถึงการต้อนรับที่อบอุ่นและเป็นกันเองจากชาวขอนแก่น:


ความประทับใจของผู้เข้าร่วม: นักเรียนจากทั่วประเทศแสดงความตื่นเต้นและประทับใจกับการมาเยือนขอนแก่นเป็นครั้งแรก หลายคนอยากไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยขอนแก่นและสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ โดยเฉพาะนักเรียนชายที่อยากเจอ "พระรักแมว" (ซึ่งพิธีกรอธิบายว่าเป็น "รักแมว" ไม่ใช่พระ) และนักเรียนหญิงที่อยาก "ส่องหนุ่มขอนแก่น"

การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม: มีการส่งเสริมให้นักเรียนได้แลกเปลี่ยนสำเนียงภาษาท้องถิ่น (เช่น เหนือ ใต้ อีสาน) และวัฒนธรรมระหว่างกัน รวมถึงการ "แลกเปลี่ยน คอนแทค กัน ด้วย" เพื่อสานสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนความรู้

การเปรียบเปรยนักเรียนเป็น "เพชร": "ลูกๆ เปรียบเสมือนเพชร ที่ วัน นี้ เดี๋ยว เรา จะ มา เจียระไน ผ่าน การ ประชุม เชิง วิชาการ ที่ เกี่ยวข้อง กับ องค์ ความ รู้ ใน เรื่อง ของ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ แล้ว ก็ เทคโนโลยี" เพื่อให้เยาวชนเหล่านี้ "เปล่ง ประกาย งดงาม อย่าง แน่นอน" และเป็น "เยาวชน ต้นแบบ" ในการพัฒนาชาติไทยในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของปัญญาประดิษฐ์ (AI)

โดยสรุปแล้ว การประชุมวิชาการครั้งนี้เป็นมากกว่าเวทีนำเสนอผลงานทางวิชาการ แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการรวมพลังของเยาวชนผู้มีความสามารถพิเศษจากทั่วประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจ สานสัมพันธ์ และสัมผัสกับวัฒนธรรมอันงดงามของจังหวัดขอนแก่น พร้อมทั้งปลูกฝังแนวคิดเรื่องพลังแห่งจินตนาการ สมาธิ และความมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเองเพื่อเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การประชุมสรุปผลการสัมมนาโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-หนองคาย

เทศกาลอาหารอีสานขอนแก่น 2568

KhonKaen NEXT ดีเบต 5 ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น