แรงบันดาลใจและปรัชญาการใช้ชีวิต รองศาสตราจารย์ ดร. ทีปานิส ชาชิโย
รองศาสตราจารย์ ดร. ทีปานิส ชาชิโย เป็นอดีตนักเรียนทุน พสวท. รุ่นที่ 9 และศิษย์เก่าโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย รุ่นที่ 26 ท่านสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาฟิสิกส์ จาก Purdue University ปัจจุบันท่านเป็นอาจารย์ประจำที่มหาวิทยาลัยนเรศวร และเป็นนักวิจัยคนไทยคนแรกที่เป็นเจ้าของผลงานสมการ "ชาชิโย" (Chachiyo equation) ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสารชั้นนำ Physic today และมีการกล่าวถึงในตำราของมหาวิทยาลัย Oxford ตำราฟิสิกส์ของเยอรมัน รวมถึงเว็บไซต์ศูนย์นาโนเทคของรัสเซียที่เกี่ยวกับควอนตัม
แรงบันดาลใจและปรัชญาการใช้ชีวิต
ดร. ทีปานิสเติบโตมากับภาพของความตายและความสูญเสียตั้งแต่วัยเด็ก เนื่องจากบ้านอยู่ใกล้วัดบูรพาภิราม จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งมีเมรุเผาศพ ทำให้ท่านเห็นขบวนศพเกือบทุกวัน ประสบการณ์นี้ทำให้ท่านรู้สึกว่าชีวิตของคนเรานั้น "เล็ก กระจ้อยร่อย" และตั้งคำถามกับความพยายามต่าง ๆ ในชีวิต ความรู้สึก "คาใจ" นี้เริ่มคลี่คลายเมื่อท่านได้ชมภาพยนตร์เรื่อง E.T. และต่อมาได้เห็นคลิป "Cosmic Eye" ที่แสดงภาพความยิ่งใหญ่ของจักรวาลตั้งแต่ระดับโลก ดวงดาว กาแล็กซี ไปจนถึงระดับเซลล์และอะตอม ท่านตระหนักว่าปัญหาและความวุ่นวายเล็ก ๆ น้อย ๆ ของมนุษย์ไม่มีผลกระทบต่อความยิ่งใหญ่ของจักรวาลเลย
จากประสบการณ์เหล่านี้ ท่านได้ตกผลึกเป็นแนวคิด 3 ประการที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิต โดยกล่าวว่าไม่จำเป็นต้องประสบกับความตายแบบตนเอง แต่ควรให้ความสำคัญกับ 3 สิ่งที่อยู่นอกเหนือจากตัวเราเอง ได้แก่ คน (People), เหตุการณ์ (Events) และแนวคิด (Ideas) ท่านยกคำกล่าวของไอน์สไตน์ที่ว่า:
จิตใจที่อ่อนแอสนใจเรื่อง คน (เธอสวยไหม รักกันไหม)
จิตใจระดับกลางสนใจเรื่อง เหตุการณ์ (สังคมมีอะไรเกิดขึ้น โควิด-19 การศึกษาเป็นอย่างไร)
จิตใจที่แข็งแกร่งสนใจเรื่อง แนวคิด (ธรรมชาติ ดวงดาว หลุมดำ เชื้อโรคคืออะไร) ท่านแนะนำให้ทุกคนสร้างความสมดุลในการพูดคุยและสนใจเรื่องทั้งสามนี้ในชีวิต
มุมมองต่ออาชีพและการศึกษา
การเลือกสายอาชีพ: ท่านท้าทายมุมมองดั้งเดิมที่เชื่อว่านักเรียนเก่งต้องเป็นหมอหรือทันตแพทย์เพื่อความมั่นคง ท่านมองว่าในปัจจุบันอาชีพใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย และระบบการรักษาพยาบาลของไทยก็ดีขึ้นมาก ทำให้คนไม่ต้องกังวลเรื่องเจ็บป่วยมากเท่าอดีต ซึ่งเพิ่มความสำคัญของการเลือกอาชีพตาม "แพชชั่น" (passion) ของตนเอง ท่านแนะนำให้เร่งค้นหาสิ่งที่ชอบ เพราะเวลาในการค้นหามีจำกัดก่อนเข้ามหาวิทยาลัย
การเป็นนักวิจัย/อาจารย์: ท่านเสนอว่าหากเป็นคนเก่งวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ อาจพิจารณาการเป็นนายกรัฐมนตรีได้ด้วยซ้ำ เพื่อให้งบประมาณไหลมาสู่การวิจัย สำหรับอาชีพนักวิทยาศาสตร์/อาจารย์มหาวิทยาลัย ท่านมองว่าเป็นอาชีพที่มีรายได้ดี (ท่านเองได้ 80,000 บาทต่อเดือน เทียบกับนายกฯ 120,000 บาท) และมีอิสระในการบริหารเวลา
ทัศนะต่อการวิจัย: สำหรับนักเรียนที่ชอบสอนแต่ไม่ชอบวิจัย ท่านมองว่านักเรียนอาจยังไม่เคยเปิดใจสัมผัสกับการวิจัยจริง ๆ ท่านเล่าประสบการณ์ของตนเองที่เคยไม่ชอบวิจัย แต่เมื่อมีโอกาสได้ทำ ก็พบว่ามันทำให้ตนเองโดดเด่นและประสบความสำเร็จ ท่านเชื่อว่า การวิจัยคือการสอนตัวเอง และเป็นกระบวนการที่ทำให้เราถ่อมตน เพราะเราได้เรียนรู้สิ่งที่เรายังไม่รู้
งานรองรับสำหรับนักเรียนทุน พสวท.: ท่านเชื่อว่านักเรียนทุน พสวท. ไม่ควรรอให้ระบบหางานให้ แต่ควร เชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง และพิสูจน์ตนเองในการหางาน ท่านมองว่าความขาดแคลนและโอกาสที่ต้องไขว่คว้าเองจะสร้างคนให้เข้มแข็งและพร้อมรับมือกับปัญหาในอนาคต
ทักษะสำคัญสำหรับอนาคต
ดร. ทีปานิสเน้นย้ำถึงความสำคัญของทักษะด้านภาษาเพื่อการประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งท่านกล่าวว่าใช้ 6 ภาษา:
ภาษาอังกฤษ: เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะคน 7,000 ล้านคนทั่วโลกรอที่จะสื่อสารกับเรา
คณิตศาสตร์: ต้องใช้ให้เป็น
ภาษาคอมพิวเตอร์: ต้องสามารถสั่งคอมพิวเตอร์ได้
ดนตรี: สำคัญมาก
ภาษากาย: มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสื่อสาร ไม่ใช่แค่ถ้อยคำ แต่รวมถึงจังหวะ การเลือกคำ และท่าทาง
ภาษาไทย: เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เมื่อไปอยู่ต่างประเทศนาน ๆ จะยิ่งรักและตระหนักว่าประเทศไทยเป็นที่เดียวที่ต้อนรับเราโดยไม่มีเงื่อนไข
ท่านแนะนำวิธีการฝึกภาษาอังกฤษ เช่น การเปิดทีวีภาษา Soundtrack ทิ้งไว้ขณะนอนหลับ และสังเกตเมื่อเริ่ม "ฝันเป็นภาษาอังกฤษ" ซึ่งแสดงว่าสมองเริ่มชินกับการคิดและประมวลผลเป็นภาษาอังกฤษแล้ว
จุดพลิกผันส่วนตัวและข้อคิดทิ้งท้าย
สำหรับจุดพลิกผันที่ทำให้ท่านเลือกเส้นทางนี้ ท่านเล่าอย่างตรงไปตรงมาว่า "เพราะผู้หญิง" ท่านกล่าวว่าตนเองมีความสุขกับชีวิตแล้ว แต่เมื่อได้รับจดหมายฉบับหนึ่งจากอเมริกา ก็รู้สึกว่า "เราปล่อยเขาไว้ไม่ได้" ความรู้สึกนี้ไม่ใช่แค่เรื่องหญิงชาย แต่ครอบคลุมถึงทุกความสัมพันธ์ ทำให้ท่านต้องอ่านหนังสืออย่างหนักเพื่อสอบไปเรียนต่อต่างประเทศและกลายมาเป็นนักวิทยาศาสตร์
ท่านฝากข้อคิดถึงนักเรียนว่า "ความลำบากบางทีไม่ได้มาเพื่อทำลายเรา แต่มันมาเพื่อเตรียมความพร้อมของเรา เพื่อการเดินทางที่ใหญ่กว่า มีคุณค่ามากกว่า และเพื่อรางวัลที่ใหญ่กว่าที่รออยู่" และเมื่อใดที่เราทำสิ่งใดแล้วรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก นั่นคือสัญญาณว่าเราเกิดมาเพื่อสิ่งนั้น
ดร. ทีปานิสยังได้มอบหนังสือ "กลศาสตร์ควอนตัม" ที่ท่านเขียนขึ้นเองให้กับโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย เพื่อใช้เป็นประโยชน์ในการศึกษาต่อไปด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น